ทำไมต้องนำเสนอให้โดนใจ?
ไม่ว่าชอบงานขายหรือไม่ แต่โลกบังคับให้ “ทุกคนเป็นนักขาย”
การขาย ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็น สินค้า หรือ บริการ แม้แต่ สิ่งที่ดูไม่น่าจะเป็นสินค้าได้เลยอย่างเช่น ไอเดีย ความน่าเชื่อถือ หรือแม้แต่ ตัวตนของผู้พูดก็คือ “ของ” ที่เราต้องนำเสนอ เพื่อให้คนอื่นๆ ยอมรับ และเห็นคุณค่าของมันทั้งนั้น
และการขายจะสำเร็จได้ ก็ต่อเมื่อ “การนำเสนอ” ของคุณดีพอที่จะโน้มน้าวให้อีกฝ่ายได้ แต่คำถามคือ ต้องทำยังไงล่ะ จึงจะทำให้อีกฝ่ายอินกับสิ่งที่เรานำเสนอ?
การนำเสนอที่ดีให้ยึดกฎพื้นฐานพียง 3 ข้อเท่านั้น คือ
- คุณ หรือ ผู้พูด คือ คนสำคัญที่สุด เพราะ เป็นจุดโฟกัสของผู้ฟังทั้งหมด และมีหน้าที่ต้องสื่อสารความคิดในหัว ให้โน้มน้าวอารมณ์คนฟังให้ได้
- ผู้ฟัง คือ คนที่มีอำนาจมากที่สุด เพราะ เขาเป็นคนที่ช้เป็นชี้ตายการนำเสนอของคุณ
- Presernation หรือ Slide คือ สิ่งที่สำคัญน้อยที่สุด และใช้มันเป็นเครื่องมือก็พอ
ดังนั้น การนำเสนอทุกครั้งต้องเน้นเรื่องที่เราต้องการจะสื่อสารเป็นหลักให้มากที่สุด และอย่าถลำลึกไปกับการแต่ง Slide Presentation จนเกินไป
การเรียบเรียงสิ่งที่จะต้องพูด จึงมีความสำคัญมาก และ การวางแผนให้ชัดเจนด้วย”การเขียนลงกระดาษ” จึงเป็นวิธีการที่ช่วยให้เราเรียบเรียงความคิดในหัวได้ ซึ่ง หนังสือเล่มนี้ได้ให้แบบแปลนของการเรียบเรียงความคิด เรียกว่า “Presentation Canvas” นั่นเอง
รายละเอียดของ Presentation Canvas แบ่งเป็น 3 หมวดใหญ่ๆ คือ
1.หัวใจหลักของการสื่อสาร
คือ สิ่งที่ต้องนึกถึงเสมอ เป็นกรอบในการเรียบเรียงข้อมูลที่ต้องการสื่อให้ผู้ฟัง ซึ่งประกอบด้วย
- Objective หรือ วัตถุประสงค์ในการนำเสนอครั้งนี้
- Core Message เนื้อหาหลักๆ ที่ต้องการสื่อ
- Audience ผู้ฟังการนำเสนอนี้เป็นใคร
- Place สถานที่ที่ต้องนำเสนอมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง
2. เส้นเรื่อง (Storyline)
เป็นเรื่องราวและลำดับในการเล่าเรื่อง
- Problem ปัญหา
- Solution ทางออกของปัญหา
- Benefit ประโยชน์ที่ผู้ฟังจะได้รับ
- Call to action สิ่งที่ผู้ฟังต้องทำหลังจากนี้
3. รายละเอียดสนับสนุน (Supporters)
เป็นข้อมูลสนับสนุน เพื่อให้เนื้อหาในเรื่องราวมีความน่าเชื่อถือ หรือ มีอารมณ์ร่วมมากขึ้น ข้อมูลในส่วนนี้มี 4 ส่วน คือ
- Storytelling การเปลี่ยนข้อมูลเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ เพื่อให้ผู้ฟังเกิดอารมณ์ร่วม และจดจำได้ง่ายขึ้น
- Compare การเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นกับคู่แข่ง หรือ สิ่งที่เคยมีมาก่อนหน้านี้
- Evidence/Testimonial เป็นข้อมูลที่ช่วยยืนยันว่า สิ่งที่คุณนำเสนอเป็นเรื่องจริง เพื่อโน้มน้าวให้ผู้ฟังเชื่อมากขึ้น เช่น งานวิจัย คำชื่นชมจากลูกค้า หรือ แม้แต่การพิสูจน์ให้เห็นจริงๆ ในการนำเสนอ
- Defence คือ การมองหาจุดอ่อนในการนำเสนอของตัวเอง และเตรียมคำตอบที่ดีไว้ เผื่อนเวลาผู้ฟังถาม และสิ่งนี้จะเป็นตัวช่วยยืนยันความชำนาญของคุณด้วย
ทั้งหมดนี้ คือ เนื้อหาย่อๆ ของหนังสือ Presentation Canvas: เปลี่ยนการขายเป็นการเล่าเรื่องให้โดนใจครับ ซึ่งผมคิดว่า นำเสนอตัวช่วยที่ง่ายในการนำไปใช้ได้ดีมากๆ เล่มนึงเลยล่ะครับ ใครที่มีปัญหาเรื่องการนำเสนองานที่ไม่น่าสนใจ
ลองฝึกใช้ Presentation Canvas ให้บ่อยๆ ครับ วันหนึ่งเราอาจพบว่าตัวเองนำเสนองานได้ ไม่แพ้ Steve Jobs หรือ Bill Gates ก็เป็นได้ครับ
อ่านง่าย ได้ใช้จริง 9/10 ครับ เล่มนี้