7 หลุมพรางของการแก้ไขปัญหา

ในการแก้ไขปัญหา ต้องระวังหลุมพรางเหล่านี้ครับ

  1. ระบุปัญหาไม่ชัดเจนพอ (Weak problem statements.) ทำให้ไม่รู้ว่าปัญหา หรือ เป้าหมายที่ต้องการคืออะไรกันแน่ และอาจทำให้ติดกระดุมเม็ดแรกของการแก้ปัญหาผิดไปจากที่ควรเป็น
  2. รีบสรุปวิธีแก้ปัญหาเกินไป (Asserting the answer.) เรียกง่ายๆ ว่าเป็นการ Jump to solution ซึ่งผลที่ตามมา คือ แก้ไขปัญหาไม่หายขาด ซึ่งอาจเกิดจากการแก้ที่อาการ ไม่ได้แก้ที่ราก ซึ่งเป็นสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา
  3. ย่อยปัญหาไม่ถูกวิธี (Failure to disaggregate the problem.) ทำให้ดูไม่ครบระบบ หรือ ปัจจัยแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับปัญหา
  4. ไม่ดูทีมงานและบรรทัดฐานในทีม (Neglecting team structure & norms.) อาจรวมถึงการดูสภาพแวดล้อมหน้างานจริงๆ และพฤติกรรมของคนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะทำให้รู้ข้อมูลที่เกิดขึ้นที่แท้จริงมากกว่าตัวเลขหรือข้อมูล การพลาดในจุดนี้ อาจทำให้ทั้งการวิเคราะห์ปัญหา และการแก้นั้นไม่เหมาะสมในทางปฏิบัติ
  5. ใช้เครื่องมือในการแก้วิเคราะห์ไม่ถูกต้อง (Incomplete analytic tool set.)
  6. ไม่นำข้อสรุปไปทำต่อ (Failing to link conclusion with a storyline for action.)
  7. แก้แล้วจบไม่ติดตามผล (Treat the problem solving process as one-off rather than an iterative one.) ทุกการแก้ปัญหาจำเป็นต้องติดตามผล ว่าเมื่อแก้ปัญหาแล้ว สภาพการณ์ดีขึ้นอย่างไร เพื่อให้รู้ถึงประสิทธิภาพของวิธีการแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ ยังเป็นไปเพื่อการตรวจสอบว่ามีผลข้างเคียง (Side-Effect) ที่เกิดจากวิธีการแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยหรือไม่ จะช่วยให้ปรับปรุงให้ดีขึ้นได้อย่างทันท่วงที

ทั้งหมดนี้ จึงเป็นสิ่งควรระวัง ที่นักแก้ปัญหาทุกท่านต้องไม่พลาดติดกับดักง่ายๆ นะครับ

Proudly powered by WordPress | Theme: Lean Blog by Crimson Themes.